หายใจไม่อิ่ม โดยเฉพาะในตอนกลางคืน อาจดูเหมือนอาการทั่วไปที่เกิดจากความเครียดหรือความเหนื่อยล้า แต่ความจริงแล้ว อาการนี้สามารถสะท้อนความผิดปกติของระบบหายใจ การทำงานของหัวใจ หรือแม้แต่ปัญหาการนอนที่ซ่อนอยู่โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะ หยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งอาจเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ตลอดคืน ส่งผลให้ร่างกายขาดออกซิเจนโดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว
หากปล่อยให้อาการหายใจไม่อิ่มตอนกลางคืนเป็นเรื้อรัง อาจเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ อารมณ์แปรปรวน รวมถึงประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวันลดลง ดังนั้น การได้รับการตรวจวิเคราะห์คุณภาพการนอนจึงเป็นเรื่องสำคัญในการดูแลสุขภาพในระยะยาว
ในปัจจุบัน มีสถานพยาบาลเฉพาะทางที่พัฒนาแนวทางดูแลการนอน โดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญ ให้บริการวินิจฉัยและแนะนำแนวทางการรักษา ซึ่งหากเริ่มสงสัยว่าอาการของคุณผิดปกติหรือไม่ สามารถปรึกษา Bangkok Sleep Center เพื่อประเมินและหาสาเหตุของอาการนอนไม่หลับหรือหายใจไม่อิ่ม เพื่อการรักษาที่เหมาะสมและตรงจุด
หายใจไม่อิ่ม (Dyspnea) คืออะไร?
หายใจไม่อิ่ม หรือ Dyspnea คืออาการที่ร่างกายรู้สึกว่าหายใจเข้าไปไม่สุด หรือหายใจไม่เพียงพอ แม้พยายามหายใจลึกแล้วก็ยังรู้สึกแน่น อึดอัด หรือเหนื่อยง่าย เป็นอาการที่พบได้ทั้งขณะพักหรือออกแรง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ
Dyspnea เป็นภาวะที่เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การทำงานหนักของหัวใจและปอด ภาวะเครียด การนอนกรน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) หรือแม้แต่ความผิดปกติทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่ควบคุมการหายใจ โดยบางครั้งอาจไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่หากเกิดขึ้นบ่อย ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์เฉพาะทางการนอนหลับ
จุดสังเกตของอาการหายใจไม่อิ่ม
- หายใจตื้น หรือรู้สึกหายใจเข้าไม่สุด
- ต้องถอนหายใจลึก ๆ บ่อย ๆ
- แน่นหน้าอก หรือรู้สึกอึดอัดโดยไม่มีเหตุผล
- รู้สึกเหนื่อยง่ายแม้ไม่ออกแรงมาก
- อาการรุนแรงขึ้นเมื่อกำลังจะนอนหรือในท่านอนหงาย
หายใจไม่อิ่มตอนกลางคืนเกิดจากอะไร?
หายใจไม่อิ่มตอนกลางคืน มักเกิดจากการที่ระบบทางเดินหายใจหรือหัวใจทำงานผิดปกติในช่วงเวลานอนหลับ ทำให้รู้สึกเหมือนหายใจเข้าไม่เต็มปอด รู้สึกแน่น อึดอัด หายใจตื้น หรือสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะรู้สึกขาดอากาศ โดยอาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)
เกิดจากการที่ทางเดินหายใจแคบลงหรือปิดชั่วคราวในขณะนอน ส่งผลให้หายใจติดขัด หรือหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง ทำให้ร่างกายต้องตื่นขึ้นมาสะดุ้งโดยไม่รู้ตัว - ความผิดปกติของพฤติกรรมการนอน เช่น นอนกัดฟัน ละเมอ ฝันร้าย
พฤติกรรมเหล่านี้อาจกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้เกิดภาวะหายใจผิดจังหวะ หรือรู้สึกหายใจไม่อิ่มโดยไม่รู้ตัว ส่งผลต่อคุณภาพการนอนในระยะยาว - ภาวะชักระหว่างนอน (Nocturnal Seizures)
บางคนอาจมีอาการชักแบบเงียบที่เกิดในช่วงหลับลึก ส่งผลต่อการควบคุมการหายใจและทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือหายใจไม่อิ่มหลังตื่นนอน - โรคเกี่ยวกับหัวใจและปอด
เช่น หอบหืด หัวใจล้มเหลว หรือโรคปอดเรื้อรังบางชนิด ซึ่งอาจรบกวนระบบหายใจโดยเฉพาะในขณะนอนหงาย - ความเครียด วิตกกังวล หรือภาวะแพนิคตอนนอน
ภาวะทางจิตต่าง ๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหายใจตึงตัว รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจลำบากแม้ไม่มีโรคทางกาย
หากคุณรู้สึกหายใจไม่อิ่มในช่วงกลางคืนบ่อย ๆ โดยมีอาการอื่นร่วม เช่น สะดุ้งตื่น นอนกัดฟัน ฝันร้าย หรือรู้สึกเหนื่อยทันทีหลังตื่น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจ Sleep Test ซึ่งสามารถค้นหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
หายใจไม่อิ่ม อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคหรือภาวะต่าง ๆ
อาการ “หายใจไม่อิ่ม” อาจเป็นมากกว่าแค่ความรู้สึกเหนื่อยหรืออึดอัด เพราะอาจสามารถสะท้อนถึงความผิดปกติของระบบหายใจ หัวใจ กล้ามเนื้อ ระบบประสาท หรือแม้แต่ภาวะทางจิตใจได้ เช่น
กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) เช่น ถุงลมโป่งพอง หรือหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนลดลง รู้สึกเหนื่อยและหายใจตื้น
- โรคปอดอักเสบ / วัณโรค / หอบหืด ทำให้เนื้อเยื่อปอดอักเสบหรือบวม อากาศเข้าออกลำบาก ส่งผลให้หายใจได้ไม่เต็มที่
- โรคพังผืดในปอด ทำให้ปอดแข็งตัว ยืดขยายได้น้อยลง ทำให้หายใจลึกไม่ได้เหมือนปกติ
- ภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (PE) โดยมีลิ่มเลือดไปอุดหลอดเลือดในปอด ทำให้เกิดอาการหายใจหอบเฉียบพลันและอาจอันตรายถึงชีวิต
- กล่องเสียงหดเกร็ง ทำให้หายใจติดขัดที่ระดับลำคอ โดยเฉพาะช่วงหายใจเข้า
- ลองโควิด (Long Covid) เป็นผลข้างเคียงจากโควิดที่หายแล้ว แต่อาจหลงเหลืออาการหายใจไม่อิ่มหรือเหนื่อยง่าย
- การติดเชื้อโควิด-19 หากเชื้อลงปอด อาจทำให้หายใจลำบากแม้ในผู้ที่เคยแข็งแรงมาก่อน
กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด
- หัวใจล้มเหลว (Heart Failure) เกิดจากหัวใจสูบฉีดเลือดไม่พอ ทำให้เลือดคั่งในปอด ซึ่งทำให้รู้สึกแน่นหน้าอกและหายใจไม่อิ่ม โดยเฉพาะเมื่อนอนราบ
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เกิดจากหลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจแคบลง ทำให้หัวใจขาดเลือด โดยผู้ป่วยจะรู้สึกเหนื่อยและหายใจติดขัดตอนออกแรง
- เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจเกิดการอักเสบ ทำให้รู้สึกแน่นตึงเวลาหายใจลึก ๆ
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดไม่มีประสิทธิภาพ ร่างกายขาดออกซิเจน ทำให้เกิดอาการหายใจไม่ทัน
กลุ่มโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
- ALS (กล้ามเนื้ออ่อนแรง) ส่งผลให้กล้ามเนื้อช่วยหายใจทำงานได้น้อยลง หายใจได้ไม่เต็มปอด
- Myasthenia Gravis (MG) โรคภูมิคุ้มกันทำลายจุดเชื่อมต่อของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากเกิดที่กล้ามเนื้อหายใจ จะทำให้หายใจลำบาก
- Multiple Sclerosis (MS) ส่งผลต่อการควบคุมการหายใจโดยระบบประสาท อาจเกิดอาการหายใจผิดปกติได้
กลุ่มโรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม
- ไทรอยด์เป็นพิษ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เหนื่อยง่าย และรู้สึกหายใจไม่อิ่ม
- ไทรอยด์อักเสบเรื้อรัง ส่งผลต่อการเผาผลาญพลังงานของร่างกายและทำให้เกิดความเหนื่อยล้าเรื้อรัง
- เบาหวานที่มีภาวะคีโตแอซิโดซิส (DKA) ภาวะฉุกเฉินที่ทำให้ร่างกายหายใจลึกและถี่แบบผิดปกติ (Kussmaul breathing)
กลุ่มภาวะทางจิตใจและพฤติกรรม
- โรคแพนิค / วิตกกังวลเรื้อรัง ทำให้กล้ามเนื้อหายใจตึงตัว หายใจเร็ว รู้สึกเหมือนขาดอากาศ
- กลุ่มอาการไฮเปอร์เวนติเลชัน (hyperventilation) เกิดหายใจเร็วเกินไปโดยไม่รู้ตัว อาจเกิดร่วมกับความเครียดหรืออารมณ์กลัว
- ฝันร้าย ละเมอ นอนกัดฟัน ซึ่งจะกระตุ้นระบบประสาทในช่วงนอนหลับ ทำให้หายใจไม่สม่ำเสมอหรือรู้สึกไม่อิ่มขณะตื่น
- ภาวะชักขณะนอนหลับ อาจรบกวนจังหวะการหายใจโดยไม่รู้ตัว และจะมีอาการหอบเหนื่อยหลังตื่นนอน
กลุ่มโรคอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อระบบหายใจ
- โลหิตจางรุนแรง การที่เม็ดเลือดแดงน้อยลง ทำให้ขนส่งออกซิเจนได้น้อย ทำให้รู้สึกหายใจไม่พอ
- อ้วนมาก (Obesity Hypoventilation Syndrome) โดยไขมันกดเบียดทรวงอกและกระบังลม ทำให้หายใจตื้น
- โรคไตเรื้อรัง ของเสียสะสมในเลือด ส่งผลให้มีภาวะกรดในร่างกายและเหนื่อยง่าย
- โรคโครห์น / โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองบางชนิดมีผลต่อระบบกล้ามเนื้อหายใจหรือเยื่อหุ้มปอด
ประเภทของอาการหายใจไม่อิ่ม
1. หายใจไม่อิ่มแบบเฉียบพลัน
เกิดขึ้นรวดเร็วภายในไม่กี่นาทีจนถึง 2–3 ชั่วโมง มักเกี่ยวข้องกับการออกแรงมากเกินไป ภาวะเครียดฉับพลัน อาการแพ้รุนแรง ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือหลอดเลือดในปอดอุดตัน ทำให้รู้สึกแน่นหน้าอกและหายใจเข้าได้ไม่สุด
2. หายใจไม่อิ่มเรื้อรัง
เป็นภาวะที่มีอาการต่อเนื่องนานกว่า 2–3 สัปดาห์ โดยมักพบในผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง เช่น ถุงลมโป่งพอง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ภาวะหัวใจวายเรื้อรัง หรือความดันในหลอดเลือดปอดสูง
3. หายใจไม่อิ่มในขณะนอนหลับ (Paroxysmal Nocturnal Dyspnea: PND)
ผู้ป่วยมักสะดุ้งตื่นกลางดึกจากความรู้สึกหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก หรืออึดอัดเมื่ออยู่ในท่านอนราบ ต้องลุกขึ้นนั่งเพื่อหายใจได้ดีขึ้น มักสัมพันธ์กับภาวะหัวใจที่ทำงานลดลง
4. อ่อนแรงจากการหายใจลำบาก
การหายใจไม่สะดวกเรื้อรังอาจทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยง่าย เพลีย หมดแรง แม้ในขณะทำกิจกรรมเบา ๆ
5. ถอนหายใจบ่อยจากความรู้สึกหายใจไม่สุด
บางคนอาจรู้สึกเหมือนหายใจเข้าไม่เต็มที่จนต้องพยายาม “ถอนหายใจ” ลึก ๆ ซ้ำ ๆ เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น อาการนี้พบได้ในภาวะเครียด วิตกกังวล ภาวะแพนิค หรือการหายใจผิดจังหวะ โดยที่การทำงานของปอดและหัวใจยังปกติดี
ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะหยุดหายใจขณะหลับและอาการหายใจไม่อิ่ม
อาการหายใจไม่อิ่มในตอนกลางคืน หรือเมื่อตื่นนอน อาจไม่ได้เป็นแค่ความรู้สึกเหนื่อยจากวันหนัก ๆ แต่อาจเป็นสัญญาณของ “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea – OSA)” ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยและมักจะถูกละเลย
ภาวะนี้เกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณลำคอหย่อนตัวขณะหลับ ทำให้ทางเดินหายใจแคบหรือปิดชั่วขณะ ส่งผลให้ร่างกาย หยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ตลอดทั้งคืน แม้บางคนจะไม่รู้ตัว แต่ร่างกายจะตอบสนองด้วยการตื่นขึ้นเล็กน้อยซ้ำ ๆ เพื่อพยายามหายใจ ทำให้การนอนหลับไม่มีคุณภาพ และเกิดความรู้สึก “หายใจและพักผ่อนไม่เต็มที่” แม้จะนอนครบ 7–8 ชั่วโมง
สัญญาณที่อาจบ่งบอกว่าอาการหายใจไม่อิ่มเกี่ยวข้องกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ได้แก่
- สะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะรู้สึกเหมือนขาดอากาศ
- รู้สึกเพลียมากในตอนเช้า แม้นอนเต็มเวลา
- ปวดศีรษะหลังตื่นนอน
- นอนกรนเสียงดัง สลับกับช่วงหยุดหายใจเงียบ ๆ
- มีอาการง่วงกลางวันหรือหลับในโดยไม่รู้ตัว
หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจนำไปสู่โรคอื่น ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ เบาหวาน หรือแม้แต่อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า
ดังนั้น หากไม่ดูแลคุณภาพการนอนให้ดี อาการหายใจไม่อิ่มอาจค่อย ๆ สะสมจนกลายเป็นภาวะเรื้อรังที่ส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจในระยะยาวได้
อันตรายจากอาการหายใจไม่อิ่ม อย่ามองว่าแค่เหนื่อยธรรมดา
อาการหายใจไม่อิ่ม อาจดูเหมือนเป็นเพียงความรู้สึกเหนื่อยง่าย หายใจไม่สุด หรืออยากถอนหายใจบ่อย ๆ แต่หากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หรือเป็นในขณะนอนหลับ อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติภายในร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมี ความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนี้
อันตรายในระยะสั้น
- อ่อนเพลียตลอดวัน เพราะร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้รู้สึกไม่สดชื่นแม้จะนอนครบ
- เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลม จากการที่สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอในบางช่วง
- กระทบต่อการทำงานและสมาธิ ทำให้เกิดอาการล้า หงุดหงิดง่าย หรือทำงานผิดพลาด
- นอนไม่หลับ / สะดุ้งตื่นบ่อย ส่งผลให้วงจรการนอนถูกรบกวน
อันตรายในระยะยาว
- เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจล้มเหลว ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการในเวลากลางคืน
- อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคร้ายแรง เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, ถุงลมโป่งพอง, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง, หรือแม้แต่เนื้องอกบางชนิด
- กระทบต่อสุขภาพจิต เช่น วิตกกังวลเรื้อรัง แพนิค หรือซึมเศร้า จากความรู้สึกหายใจไม่ทั่วปอดเรื้อรัง
สัญญาณเตือนที่ควรรีบพบแพทย์ทันที ได้แก่ หายใจลำบากขณะพัก รู้สึกแน่นหน้าอก มือเท้าเย็น เหงื่อออกผิดปกติ เวียนศีรษะบ่อย หรือมีอาการตอนนอนหลับ
อาการหายใจไม่อิ่มไม่ใช่เรื่องเล็ก การดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ และเข้ารับการตรวจเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงจะช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาว และฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้กลับมาดีขึ้นได้อีกครั้ง
การป้องกันและรักษาอาการหายใจไม่อิ่ม
อาการหายใจไม่อิ่มอาจดูเหมือนเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแล อาจกลายเป็นสัญญาณของโรคที่ซับซ้อนกว่าเดิมได้ การดูแลและป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ
แนวทางการป้องกันอาการหายใจไม่อิ่ม
- นอนหลับให้เพียงพอและมีคุณภาพ
พยายามนอนอย่างน้อย 7–8 ชั่วโมงต่อคืน หลีกเลี่ยงการนอนดึก พักผ่อนให้เป็นเวลา และเลือกท่านอนที่ไม่กดทับระบบหายใจ เช่น นอนตะแคง - ออกกำลังกายเป็นประจำ
การเดิน ว่ายน้ำ หรือฝึกหายใจลึก ๆ จะช่วยให้ปอดแข็งแรงขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจ - ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
เพราะภาวะอ้วนมากอาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อหายใจและทำให้รู้สึกหายใจลำบาก - หลีกเลี่ยงสารกระตุ้นหรือมลพิษทางอากาศ
เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง หรือสารเคมีที่อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของทางเดินหายใจ - บริหารความเครียดอย่างเหมาะสม
เพราะความเครียดและภาวะวิตกกังวลอาจทำให้เกิดอาการหายใจตื้น หรือถอนหายใจบ่อยโดยไม่รู้ตัว
แนวทางการรักษาอาการหายใจไม่อิ่ม
- วินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง
เช่น ตรวจสมรรถภาพปอด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) เอกซเรย์ปอด หรือการทำ Sleep Test ในกรณีที่สงสัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ - รักษาตามโรคที่เป็นต้นเหตุ
- หากเกิดจากโรคหัวใจหรือปอด แพทย์จะให้การรักษาตรงตามอาการและความรุนแรง
- หากเกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP ระหว่างนอน
- ทำกายภาพบำบัดระบบหายใจ
ช่วยฝึกให้กล้ามเนื้อหายใจทำงานได้ดีขึ้น เช่น การฝึกหายใจแบบพุ่งลม (pursed-lip breathing) - ดูแลสุขภาพจิตควบคู่กันไป
หากอาการเกิดจากภาวะเครียด วิตกกังวล หรือโรคแพนิค อาจต้องได้รับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา
วิธีดูแลอาการหายใจไม่อิ่มตอนกลางคืน
อาการหายใจไม่ออกขณะนอนอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจหรือปอด การดูแลรักษาจึงควรครอบคลุมทั้งการปรับพฤติกรรม การใช้ยา และในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้เครื่องมือแพทย์หรือรับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางการนอน
1. การดูแลตัวเองเบื้องต้น
หากยังไม่มีอาการรุนแรง สามารถเริ่มจากการปรับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม เช่น
- ปรับท่านอนให้เหมาะสม
การหนุนหมอนให้สูงขึ้น หรือใช้เตียงปรับระดับ จะช่วยให้หายใจได้สะดวกมากขึ้น
- จัดห้องนอนเพื่อการนอนที่มีคุณภาพ
จัดห้องนอนให้น่านอน ด้วยแสงสลัว อุณหภูมิพอดี เตียงที่สบาย และสิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบ ช่วยให้หลับลึกและพักผ่อนได้เต็มที่
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
เช่น ฝุ่นในห้องนอน น้ำหอม หรือควันบุหรี่ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย - ควบคุมน้ำหนัก
เพราะภาวะน้ำหนักเกินส่งผลต่อระบบหายใจโดยตรง โดยเฉพาะในท่านอนหงาย - ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เช่น เดิน โยคะ หรือว่ายน้ำ เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ - ดื่มน้ำให้เพียงพอ
โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน ช่วยให้เสมหะไม่เหนียวข้น ลดโอกาสอุดตันทางเดินหายใจ - ลดแอลกอฮอล์ งดบุหรี่
เพื่อลดการกดการทำงานของระบบหายใจและลดการอักเสบเรื้อรัง - รักษาโรคประจำตัวให้ดี
เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ หรือกรดไหลย้อนที่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้อาการแย่ลง
2. การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ
การใช้ยาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในกรณีที่มีโรคประจำตัวหรืออาการไม่ดีขึ้นหลังจากปรับพฤติกรรม ได้แก่
- ยาขยายหลอดลม
สำหรับผู้ป่วยโรคปอด เช่น หอบหืด หรือถุงลมโป่งพอง - ยาคลายเครียดหรือยาต้านซึมเศร้าในบางกรณี
หากพบว่าอาการหายใจไม่อิ่มสัมพันธ์กับความวิตกกังวล - ยาแก้แพ้ หรือยากลุ่มสเตียรอยด์
สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิแพ้หรือหลอดลมอักเสบ - ยารักษาโรคหัวใจ
เช่น ACE inhibitors หรือ Beta-blockers สำหรับผู้ที่มีโรคหัวใจหรือความดันสูง
3. การรักษาด้วยวิธีอื่น
หากอาการยังรุนแรงหรือไม่ตอบสนองต่อการดูแลทั่วไป อาจต้องใช้การรักษาเพิ่มเติม เช่น
- ใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP หรือ BiPAP
เหมาะกับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือภาวะหายใจตื้นในตอนกลางคืน - ออกซิเจนเสริม
สำหรับผู้ที่มีภาวะปอดเสื่อมหรือออกซิเจนในเลือดต่ำ - การพ่นยา หรือจัดฟันดัดช่องลม (oral appliance)
โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัญหาโครงสร้างช่องปากและลำคอ - การผ่าตัด (เช่น ผ่าตัดต่อมทอนซิล ผ่าตัดจมูก หรือคอ)
ในกรณีที่โครงสร้างทางเดินหายใจอุดกั้นอย่างรุนแรง
หายใจไม่อิ่มตอนกลางคืน ส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว จึงควรรีบรักษา
อาการหายใจไม่อิ่มขณะนอนหลับ อาจไม่ใช่แค่ความเครียดหรือเหนื่อยล้า แต่ “อาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกาย” ว่าระบบหายใจกำลังมีปัญหา อาการเหล่านี้บางครั้งสาเหตุไม่ได้อยู่แค่ที่ปอด แต่อาจซ่อนอยู่ลึกถึง หัวใจ สมอง หรือระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ
โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ที่พบได้บ่อย และหลาย ๆ คนไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีอาการนอนกรนเสียงดัง สะดุ้งตื่นบ่อย หรือง่วงผิดปกติในตอนกลางวัน ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนบอกว่าร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่แท้จริง และอาจเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือโรคหลอดเลือดสมอง
อย่าปล่อยให้ “แค่นอนไม่เต็มอิ่ม” กลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต หากคุณเริ่มสงสัยว่ามีอาการดังกล่าวเหล่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเอง หรือคนใกล้ตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องต่อไป
ที่ Bangkok Sleep Center ให้บริการรักษาและให้คำปรึกษาผู้ที่มีปัญหาการนอน โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับ มีบริการตรวจ Sleep Test ทั้งที่คลินิกและตรวจที่บ้าน เพื่อวิเคราะห์สาเหตุอย่างละเอียด และแนะนำแนวทางการดูแลที่เหมาะสม รวมถึงปัญหาการนอนอื่น ๆ เช่น อาการนอนไม่หลับ
การนอนที่ดี ไม่ใช่แค่การนอนหลับ แต่ต้อง “หลับลึก หายใจได้เต็มปอด และตื่นมาแบบสดชื่น”
เพราะการมีสุขภาพดี…เริ่มต้นที่การหายใจอย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหายใจไม่อิ่ม
อาการหายใจไม่เต็มปอดตอนกลางคืนเกิดจากอะไรได้บ้าง?
อาการหายใจไม่เต็มปอดตอนกลางคืนอาจเกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคหัวใจ โรคปอด ความเครียดเรื้อรัง หรือสาเหตุอื่น ๆ
อาการหายใจไม่อิ่มอันตรายไหม?
อาการหายใจไม่อิ่มอาจเป็นอันตราย หากเกิดขึ้นบ่อยหรือรุนแรง เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจ ปอด หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หากปล่อยไว้อาจเสี่ยงต่อภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง ซึ่งส่งผลต่อสมองและหัวใจในระยะยาว
นอนแล้วหายใจไม่ค่อยออกควรทําอย่างไร?
หากนอนแล้วรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก ควรปรับท่านอนให้นอนตะแคงหรือหนุนหมอนให้สูงขึ้น หลีกเลี่ยงการกินอาหารหนักก่อนนอน และเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท หากอาการเกิดบ่อยหรือรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคหัวใจ หรือโรคปอด
หายใจแบบไหนควรไปหาหมอ?
ควรไปพบแพทย์หากมีอาการหายใจที่ผิดปกติดังนี้
- หายใจลำบากขณะพัก หรือหายใจตื้นตลอดเวลา
- แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก หรือหายใจแล้วเจ็บ
- หายใจหอบร่วมกับเวียนหัว หน้ามืด หรือเป็นลม
- สะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะหายใจไม่ออกบ่อยครั้ง
- มีเสียงหวีดขณะหายใจ หรือหายใจไม่อิ่มเรื้อรัง
อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจ ปอด หรือระบบประสาทที่ต้องวินิจฉัยอย่างเร่งด่วน



