หลายคนที่เข้ามาตรวจ Sleep Test แล้ว พบว่าตัวเองมีภาวะนอนกรนร่วมกับหยุดหายใจขณะหลับ และแพทย์ได้แนะนำให้รักษาด้วยเครื่อง CPAP บางคนอาจไม่เคยรู้จักเครื่องนี้เลย หรือบางคนอาจหาข้อมูลมาบ้าง แต่ก็ยังไม่เข้าใจถึงการทำงานที่แท้จริงของเครื่อง CPAP บทความนี้จะช่วยทำให้ทุกคนได้ทำความรู้จักและเข้าใจการทำงานของเครื่อง CPAP มากขึ้น
CPAP หรือ Continuous Positive Airway Pressure คือเครื่องช่วยหายใจประเภทหนึ่ง
ซึ่งเครื่อง CPAP เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นมาตรฐานการรักษา (Gold Standard) ในการรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งหลักการในการทำงานของเครื่องคือ การอัดแรงดันอากาศให้แก่ผู้ใช้งานในขณะหายใจเข้า เพื่อเปิดช่องทางเดินหายใจส่วนต้นของให้กว้างขึ้น สามารถรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ทุกระดับ
ถ้าถามถึงเรื่องการทำงานระบบการทำงานของเครื่อง CPAP คงต้องเริ่มอธิบายจากเรื่องของการนอนกรนก่อน หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า อาการนอนกรน เกิดจากการที่ช่องทางเดินหายใจของเราเกิดตีบแคบลงขณะที่นอนหลับลึก ปิดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้ลมหายใจไม่สามารถผ่านไปยังหลอดลมและปอดได้อย่างสะดวก ลมหายใจผ่านช่องที่ตีบแคบเป็นสาเหตุให้เพดานอ่อน และกล้ามเนื้อบริเวณโคนลิ้นและช่องคอสั่นกระพือ เกิดเป็นเสียงกรนดังขึ้น และบางครั้งช่องทางเดินหายใจอาจปิดจนสนิท เกิดเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับขึ้น ทำให้เราหยุดหายใจชั่วคราวขณะหลับ ประมาณครั้งละนานมากกว่า 10 วินาที และเป็นซ้ำมากกว่า 5 ครั้งต่อ 1 ชั่วโมงขึ้นไป เป็นผลให้สมองขาดออกซิเจนขณะนอนกลับ มีผลกระทบต่อการสมองและร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เครื่อง CPAP สามารถแก้ปัญหานี้ได้ที่ต้นเหตุ ด้วยหลักการทำงานคือเครื่องจะดูดอากาศจากภายนอก ผ่านแผ่นกรองฝุ่น และผลิตแรงดันอากาศส่งออกมา ผ่านทางท่อลม เข้าสู่หน้ากากที่ครอบจมูกเราไว้ และผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเรา แรงดันอากาศที่เครื่อง CPAP สร้างขึ้นมา ก็จะเป็นตัวช่วยในการขยายช่องทางเดินหายใจของเราให้เปิดกว้างขึ้น แม้ว่ากล้ามเนื้อบริเวณโคนลิ้นและช่องคอจะผ่อนคลายตอนที่นอนหลับสนิท ช่องทางเดินหายใจของเราก็จะไม่ตีบแคบลง ปัญหาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับก็จะหายไป
เครื่อง CPAP ถือเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้งานได้ง่าย และถึงแม้เครื่อง CPAP จะมีหลายยี่ห้อ หลายประเภท แต่ก็จะมีอุปกรณ์หลักๆ ไม่ต่างกันคือ ตัวเครื่องสร้างแรงดันอากาศ (CPAP Device) หน้ากากพร้อมสายรัดศีรษะ (CPAP Mask) ท่ออากาศหรือท่อลม และอุปกรณ์เสริม เช่น เครื่องทำความชื้น
ในด้านการใช้งาน เราจะใช้เครื่อง CPAP เฉพาะเวลาที่นอนหลับ ที่สำคัญควรใช้ตลอดทั้งคืนและทุกคืน เพื่อช่วยบรรเทาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับอย่างสม่ำเสมอ และสร้างความคุ้นชินในการใส่เครื่อง CPAP โดยมีขั้นตอนการใช้งานง่ายๆ เพียง สวมหน้ากาก ขยับหน้ากากให้กระชับกับใบหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ลมรั่วออกจากหน้ากาก จากนั้นเปิดเครื่อง เครื่องจะทำการปล่อยแรงดันลมที่เหมาะสมผ่านโพรงจมูกของเราเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เพียงเท่านี้เราก็จะนอนได้อย่างสบายใจ
โดยข้อดีของการใช้เครื่อง CPAP ในการรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ที่ผู้ใช้งานทั่วโลกพูดเหมือนกันคือ เมื่อใช้งานอยางสม่ำเสมอจะทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น ตื่นขึ้นมาสดชื่นมากขึ้น และมีอาการง่วงนอนหรืออ่อนเพลียในตอนกลางวันลดลงหรือแทบไม่มีเลย เนื่องจากได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่และดีขึ้น และในระยะยาวยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่มาพร้อมกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับอีกด้วย
การรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ด้วยเครื่อง CPAP นั้นไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือน่ากังวลอย่างที่หลายคนคิด แต่เป็นการรักษาที่ได้ผลดีและแพทย์เฉพาะทางทั่วโลกยอมรับ หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการนอนกรนหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อเข้ารับการตรวจการนอนหลับ Sleep Test เพื่อหาแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง
ศูนย์ Sleep lab บริการให้การตรวจการนอนหลับ (sleep test) ยินดีให้บริการ และพร้อมให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหานอนกรน แก้อาการนอนกรน ผู้หญิง-ผู้ชาย พร้อมบริการรักษาภาวะนอนกรน และหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea) โดยการใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) โดยแพทย์เฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจาก American Board of Sleep Medicine และเจ้าหน้าที่ ที่คอยให้บริการอย่างอบอุ่น สุภาพ และเป็นกันเอง ในบรรยากาศที่พักส่วนตัวที่เงียบสงบ และร่มรื่น
ศูนย์ Sleep lab ที่ให้การตรวจการนอนหลับ (sleep test) ของคุณ
เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง
โทรปรึกษา 064-649-1919, 02-089-8687