อาการปวดหัวหลังตื่นนอน เป็นๆหายๆ ที่มองข้ามไม่ได้

ปวดหัวหลังตื่นนอน
ปวดหัวหลังตื่นนอน

การตื่นนอนในตอนเช้าอย่างสดชื่นนั้น จะนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวันที่ดี หากเราเริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาการปวดหัวแล้ว อาจทำให้เช้านั้นกลายเป็นวันที่แย่ พาลทำให้หงุดหงิด ส่งผลเสียต่อสัมพันธภาพต่อผู้อื่น และที่สำคัญคือมีผลกระทบต่อสุขภาพของท่านเอง 

อาการที่เราตื่นนอนแล้วปวดหัว อาจจะรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ ทุกเช้าหลังตื่นนอน หรือรู้สึกหนักหัวแทบลุกไม่ไหว เหมือนยังนอนไม่อิ่ม ซึ่งบ่งบอกถึง “ความผิดปกติในการนอนหลับ” หากเกิดขึ้นทุกเช้าหลังจากตื่นนอน เรียกว่า Early morning headache

ตื่นนอนแล้วปวดหัว

อาการดังกล่าว มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง? จะป้องกันหรือรักษาอย่างไร? 

ปวดหัวหลังตื่นนอน เกิดจากอะไรได้บ้าง?

สาเหตุของอาการปวดหัวทุกเช้า อาจเกิดได้จากหลากหลายปัจจัยรวมกัน ตั้งแต่ สาเหตุจากโรคที่มีอยู่ก่อน พฤติกรรมการนอน สุขลักษณะนิสัยการนอนหลับ สภาพแวดล้อม ลักษณะที่นอน หมอน สุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตของผู้ป่วยเลยทีเดียว 

นอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

การนอนกรน (snoring) และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (obstructive sleep apnea หรือ OSA) มักสัมพันธ์กับอาการปวดหัวทุกเช้า เนื่องจากร่างกายถูกกระตุ้นให้ทำงานหนักตลอดทั้งคืน และรบกวนการพักผ่อนของสมอง ทำให้สมองต้องทำงานหนักและไม่ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตื่นนอนแล้วปวดหัวตอนเช้า

ยิ่งไปกว่านั้น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือ ภาวะ OSA หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี จะส่งผลกระทบกับอวัยวะสำคัญ ๆ ของร่างกายเรา ไม่ว่าจะเป็นสมอง และหัวใจ 

นอนกรนปวดหัว

ศึกษา อาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ พร้อมแนวทางการรักษา 

https://www.bkksleepcenter.com/snoring-sleep-apnea/

การนอนกัดฟัน

การนอนกัดฟัน (teeth grinding) ได้แก่ การขบหรือกัดฟันของเราโดยไม่รู้ตัว (และอาจเป็นบ่อย) ในระหว่างที่นอนหลับ ทำให้เกิดการเกร็งซ้ำ ๆ จนกล้ามเนื้อตึงและกระตุ้นให้มีเราตื่นนอนแล้วปวดหัวในช่วงเช้าได้ กรณีนี้อาจสังเกตได้จากลักษณะของอาการปวดหัว ว่าเป็นการปวดแบบทื่อ ๆ และอาจรู้สึกปวดกรามร่วมด้วย หากพบว่าตัวเองอาจมีอาการเช่นนี้ ควรปรึกษาแพทย์

อ้างอิง: https://americanmigrainefoundation.org/resource-library/sleep/ 

โรคปวดหัวที่เป็นอยู่แล้ว เช่น ไมเกรน

ไมเกรนเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวซ้ำ ๆ โดยอาการปวดหัวมักกำเริบในตอนเช้า และมักจะรุนแรงกว่าอาการปวดหัวในตอนเช้าทั่วไปมาก ทำให้หลายคนตื่นนอนแล้วปวดหัวข้างเดียว หรือปวดทั้งสองข้างอย่างรุนแรงเลยทีเดียว

ในทางกลับกัน ก็มีรายงานว่า คุณภาพการนอนหลับที่ไม่ดี และการนอนหลับมากเกินไป อาจเป็นตัวกระตุ้นอาการไมเกรนให้กำเริบได้อีกด้วย

ดังนั้น เราควรระมัดระวังและเสริมสร้างสุขนิสัยการนอนที่ดี เพื่อลดโอกาสกำเริบของโรค

โรคนอนไม่หลับเรื้อรัง (Chronic Insomnia)

โรคนอนไม่หลับ (insomnia) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคนอนไม่หลับเรื้อรัง (chronic insomnia) เป็นหนึ่งในสาเหตุของการตื่นนอนแล้วปวดหัวในตอนเช้า

ปวดหัวนอนไม่หลับ

ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนของร่างกาย เนื่องจากไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จึงนำมาสู่ปัญหาตื่นนอนแล้วปวดหัว รวมถึงผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น อ่อนเพลีย สมาธิ และปัญหาความจำ เป็นต้น

ศึกษา โรคนอนไม่หลับ และแนวทางการรักษาด้วยจิตบำบัด CBT-I https://www.bkksleepcenter.com/cbt-i/ 

ปัจจัยทางด้านจิตใจ 

ความเครียดอาจส่งผลต่อความตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ เช่น ในรายที่มีภาวะเครียดแล้วนอนกัดฟัน ก็อาจทำให้ตื่นนอนแล้วปวดหัวตอนเช้าได้ 

นอกจากนี้มีรายงานว่าผู้ป่วยที่มีภาวะวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า มักพบปัญหาตื่นนอนแล้วปวดหัวเรื้อรังในตอนเช้าด้วย แม้จะยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นปัจจัยโดยตรง แต่มีการวิเคราะห์ว่าอาจสัมพันธ์กับภาวะผิดปกติอื่น ๆ รวมทั้งภาวะนอนไม่หลับเรื้อรัง ที่กระทบกับการนอนหลับ 

พฤติกรรมการใช้ชีวิตและการนอนหลับที่ไม่เหมาะสม

พฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่ง ที่มักสร้างปัญหาเกี่ยวกับการนอนของเรา และมีผลให้ทำให้ตื่นนอนแล้วปวดหัว


การอดนอน นอนน้อยเกินไป

การนอนน้อยเกินไปที่เกิดจากพฤติกรรม เช่น ชอบทำงานหรือเล่นมือถือจนดึก แต่มีภารกิจต้องตื่นแต่เช้า หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อย ๆ ทำให้ชั่วโมงการนอนต่อวันมีน้อย กรณีนี้ให้ผลลัพธ์ไม่ต่างกับโรคนอนไม่หลับ เพราะเมื่อสมองไม่ได้รับการการพักผ่อนที่เพียงพอ ทำให้มีปัญหาตื่นนอนแล้วปวดหัว


นอนหลับไม่เป็นเวลา

ร่างกายมนุษย์มีระบบการทำงานที่สม่ำเสมอ หรือที่เรียกว่า นาฬิกาชีวภาพ (Biological clock) ที่มีหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานตรงตามเวลา ซึ่งนาฬิกาชีวภาพจะสัมพันธ์กับช่วงเวลาการตื่นนอนและเข้านอน 

หากเวลาการนอนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อย ๆ 

ร่างกายจึงต้องมีการปรับตัว โดยการปรับตัวของร่างกายนั้น มีความเกี่ยวข้องกับการหดหรือขยายตัวของหลอดเลือด เพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการตื่นนอนหรือการเข้านอน จึงไปกระตุ้นให้เราตื่นนอนแล้วปวดหัวตอนเช้าได้


นอนมากเกินไป 

การนอนหลับที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดปัญหาตื่นนอนแล้วปวดหัวได้ไม่ต่างกับการนอนหลับไม่เพียงพอ แต่มาจากสาเหตุที่แตกต่างกัน กล่าวคือ การนอนหลับมากเกินไป จะส่งผลต่อฮอร์โมนบางตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง นอกจากนี้ยังเกิดภาวะขาดน้ำหรือมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จึงทำให้เกิดอาการปวดหัวได้

การนอนหลับมากเกินไป อาจเป็นได้ทั้งพฤติกรรมและอาการของโรค แต่ในบางรายอาจเกิดจากโรคนอนเกิน (Hypersomnia) ซึ่งไม่เพียงตื่นยากกว่าคนทั่วไปเท่านั้น ยังมีอาการง่วงนอนตลอดวันและมักจะต้องกลับไปนอนซ้ำอีกบ่อย ๆ ให้สังเกตดูว่าตัวเองมีอาการเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน ช่วงใดบ้าง ถ้ารู้สึกอยากนอนตลอดทั้งวัน เผลอแป๊บเดียวก็หลับ กรณีเช่นนี้อาจไม่ใช่แค่พฤติกรรมแต่เกิดจากโรค ควรปรึกษาแพทย์ 

สาเหตุอื่น ๆ ที่ส่งเสริมให้ปวดหัวหลังตื่นนอน

  • การดื่มคาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์ เนื่องจากมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท และการหดหรือขยายตัวของหลอดเลือด ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไป หรือดื่มในช่วงเวลาไม่เหมาะสม เช่น ช่วงบ่ายแก่ ๆ ช่วงเย็น หรือก่อนเข้านอน จะเพิ่มความเสี่ยงให้ตื่นนอนแล้วปวดหัวได้
  • การตั้งครรภ์ ก็อาจทำให้ตื่นนอนแล้วปวดหัวได้ เนื่องจากการตั้งครรภ์ทำให้เกิดความเหนื่อยล้า อาจต้องงีบหลับบ่อยขึ้น ซึ่งหลาย ๆ ครั้งก็เป็นการงีบหลับที่ผิดเวลาหรือไม่เหมาะสม รวมถึงความเครียด และภาวะขาดน้ำหรือขาดน้ำตาล ทำให้คุณแม่มักตื่นนอนแล้วปวดหัวบ่อย ๆ
  • การใช้ยาบางชนิด ยาบางชนิดอาจทำให้เสี่ยงตื่นนอนแล้วปวดหัวมากขึ้น หากใช้เกินขนาด หรือใช้เป็นประจำเกินเหตุจำเป็น อีกทั้งยาบางชนิดก็ไม่ควรกินในช่วงใกล้เวลานอน เพราะจะไปรบกวนวงจรการนอน และกระตุ้นให้มีอาการปวดหัวหลังตื่นนอนได้ ทั้งนี้ ควรใช้ยา หรืออาหารเสริมด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุต้นตอของโรค ในกรณีที่มีอาการปวดเรื้อรัง แทนการใช้ยารักษาเอง 

ปรึกษาแพทย์ เพื่อค้นหาสาเหตุ และรักษาอย่างถูกวิธี

หากตื่นนอนแล้วปวดหัวจนเป็นอาการเรื้อรัง วิธีที่ดีที่สุดคือ การเดินทางมาพบแพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับ แพทย์จะค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว ซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมทั้งวิเคราะห์เจาะลึกความผิดปกติระหว่างนอนหลับ เช่น

ในรายที่แพทย์สงสัยว่า อาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เช่น มีอาการนอนกรนเป็นประจำ (หรือบ่อยครั้ง) หรือมีอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจากการวินิจฉัยของแพทย์แล้ว แพทย์อาจแนะนำให้เข้ารับการตรวจการนอนหลับ หรือ sleep test  

หรือหากสาเหตุการปวดหัวนั้น มาจากการนอนไม่หลับเรื้อรัง หรือภาวะทางจิตใจ แพทย์อาจแนะนำวิธีบำบัดอาการนอนไม่หลับ เป็นต้น

ปวดหัวปรึกษาแพทย์

การเร่งค้นหาสาเหตุเพื่อนำมาสู่การวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ก่อนที่จะเกิดเป็นอาการเรื้อรัง จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การนอนหลับ คือการพักผ่อนที่แท้จริง 

ปรึกษาและรักษาด้วยแพทย์เฉพาะทางด้านการนอน

ฝึกฝนสุขนิสัยการนอนที่ดี ลดปัญหาตื่นนอนแล้วปวดหัว

นอกจากการรับการรักษาจากแพทย์แล้ว 

สิ่งที่จะสามารถช่วยได้ทั้งป้องกัน และอาจรักษาปัญหาตื่นนอนแล้วปวดหัวได้ คือการปฏิบัติตามสุขนิสัยการนอนที่ดี (Sleep Hygiene) เพราะเป็นหลักปฏิบัติที่ครอบคลุมพื้นฐานการนอนหลับที่ดี ทั้งในแง่ของพฤติกรรมก่อนเข้านอน พฤติกรรมการนอน และการจัดการสิ่งแวดล้อมการนอนให้เหมาะสม ได้แก่

หลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่เหมาะสม

  • การสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารนิโคติน ที่ไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และยังกดสมองทำให้ร่างกายไม่ง่วงนอน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นอนหลับไม่มีคุณภาพ ตื่นนอนแล้วปวดหัว
  • การออกกำลังกายช่วงเย็นหรือหัวค่ำ เปลี่ยนไปออกกำลังกายตอนเช้าดีกว่า
  • การใช้ยานอนหลับติดต่อกันเป็นเวลานาน การทำงานหรือคิดอะไรเครียด ๆ ก่อนนอน
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ รวมถึงเครื่องดื่มบำรุงกำลังต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะช่วงบ่ายแก่ ๆ จนถึงช่วงเย็น ควรงดเด็ดขาด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจไปกระตุ้นให้นอนหลับได้ยากขึ้น หรือมีอาการกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับรุนแรงขึ้น
  • การงีบหลับระหว่างวันนานเกิน 1 ชั่วโมง ยกเว้นกรณีง่วงมาก ๆ อาจงีบหลับช่วงสั้น ๆ ให้พอสดชื่นได้ อย่านอนนานเกิน 1 ชั่วโมง และอย่างีบหลับในช่วงหัวค่ำ
  • การกินอาหารมื้อหนักก่อนเข้านอน รวมถึงการกินอาหารบางประเภท ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นให้มีอาการตื่นตัว

ส่งเสริมปัจจัยด้านบวกที่ดีต่อการนอนหลับ 

  • การนอนหลับในที่ที่ป้องกันแสงและเสียงรบกวนต่าง การปรับอุณหภูมิให้เย็นสบาย ไม่หนาวหรืออุ่นเกินไปก่อนนอน แอร์รุ่นใหม่มักจะมีโหมดการทำงานที่ปรับอุณหภูมิให้เข้ากับช่วงเวลาการนอนของเราโดยอัตโนมัติ ลองศึกษาและใช้งานโหมดนั้นดู

     

  • ปรับท่านอนให้เหมาะกับสรีระ และเลือกหมอนที่เหมาะสมกับสรีระช่วงคอและหัวของเรา เพื่อลดแรงตึงของกล้ามเนื้อ โดยให้เลือกหมอนให้เหมาะสมกับท่านอนที่เราถนัด นอกจากนี้ หากมีอาการนอนกรน ควรเปลี่ยนจากท่านอนหงายมาเป็นท่านอนตะแคงเพื่อลดอาการดังกล่าว

     

  • สร้างอุปนิสัยการนอนให้ตรงต่อเวลา สม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ควรนอนให้ได้อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่มากเกินไป และไม่น้อยเกินไป และพยายามเข้านอนก่อนเที่ยงคืน

     

  • ควรเข้านอนเมื่อง่วงนอนจริง ๆ แล้วเท่านั้น ไม่ใช้ที่นอนเป็นพื้นที่ในการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง หากผ่านไป 30 นาทีแล้วยังนอนไม่หลับ ให้ลุกออกมาทำกิจกรรมเบา ๆ อย่างอื่น รอให้ง่วงอีกครั้งค่อยกลับไปนอน

     

  • หากตื่นกลางดึก ให้ผ่อนคลายเข้าไว้ อย่ากดดันตัวเองให้ต้องนอนต่อให้ได้ เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้กังวลโดยใช่เหตุ นอกจากนี้ ไม่ควรดูนาฬิกา เพราะจะยิ่งสร้างความรู้สึกกดดัน

     

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเลือกออกกำลังในช่วงเช้า หรือตอนที่ไม่ใกล้กับช่วงเวลาก่อนนอนมากเกินไป

     

  • คุมอาหาร ลดน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพราะความอ้วนเป็นปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มโอกาสนอนกรน และโอกาสเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

สรุป

ปัญหาการตื่นนอนแล้วปวดหัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการปวดหัวหลังตื่นนอนตอนเช้า (Early morning headache) เป็นภาวะผิดปกติที่มีได้ทั้งชั่วคราวและเรื้อรัง อาจมาจากสาเหตุที่หลากหลาย ได้แก่ โรคปวดหัวเรื้อรังบางชนิด เช่น ไมเกรน แต่อีกสาเหตุหลัก ๆ เลย มักจะเกี่ยวข้องกับ “คุณภาพการนอนหลับ”

ปัญหาด้านคุณภาพการนอนหลับ อาจเป็นได้ทั้งที่มาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อให้เกิดการนอนที่ดี และอีกสาเหตุสำคัญก็คือ โรคที่เกี่ยวกับการนอนหลับทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นโรคนอนไม่หลับ (insomnia) และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) เป็นต้น

ผู้ที่มีปัญหาตื่นนอนแล้วปวดหัว อย่างแรกที่ควรทำคือ การพิจารณาดูว่าตัวเองมีอาการเช่นนี้เป็นประจำหรือไม่? เพราะอาจเกิดจากพฤติกรรมหรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเฉพาะวันนั้น ๆ หากแก้ไขได้แล้ว อาการเหล่านี้ก็หมดไป แต่ถ้ามีอาการเรื้อรัง ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับ เพื่อหาสาเหตุปัจจัยและแนวทางการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป

กรุงเทพ สลีป เซ็นเตอร์ ยินดีให้บริการ และพร้อมให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหานอนกรน แก้อาการนอนกรน ผู้หญิง-ผู้ชาย พร้อมบริการรักษาภาวะนอนกรน และหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea) โดยการใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) โดยแพทย์เฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจาก American Board of Sleep Medicine และเจ้าหน้าที่ ที่คอยให้บริการอย่างอบอุ่น สุภาพ และเป็นกันเอง ในบรรยากาศที่พักส่วนตัวที่เงียบสงบ และร่มรื่น

กรุงเทพ สลีป เซ็นเตอร์
ศูนย์ตรวจรักษาภาวะนอนกรน และนอนไม่หลับ
เพื่อให้การนอนของคุณ เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง

โทรปรึกษา 064-649-1919, 02-089-8687

บทความอื่นๆ

นอนหลับเยอะ ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น เกิดจากอะไร

ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่นเกิดจากอะไร? ทุกคนเคยเป็นกันไหมว่า ตื่นนอนแล้วร่างกายไม่สดชื่นเอาซะเลย นอนก็มากกว่า 6 ชมแล้ว

อ่านเพิ่มเติม
โรคลมหลับ ภัยร้ายที่ถูกมองข้าม

โรคลมหลับ ภัยร้ายที่ถูกมองข้าม

ใครที่รู้ตัวว่าตัวเองง่วงนอนตลอดเวลา นอนเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่พอ บางครั้งเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยจาก โรคลมหลับ (Narcolepsy)

อ่านเพิ่มเติม
Shopping Basket